รูปเหมือน สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี วัดระฆัง (หน้าตัก9นิ้ว)งานไฟเบอร์หุ่นขี้ผึ้งเสมือนคนจริง ติดเกศาห่มจีวร
อิทธิฤทธิ์ ของสมเด็จโต
มหาอำมาตย์พระยาทิพโกษา (สอน โลหะนันท์) บันทึกไว้ และท่านพระครูปลัดมหาเถรานุวัตร (มหาแพ) จัดพิมพ์เป็นธรรมทานในคราวสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี มีใจความอยู่ตอนหนึ่งว่า
ครั้นถึงปีกุน ยังเป็นโทศก จุลศักราช 1212 วันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ 8 ทุ่ม 5 บาท
สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่เสด็จสวรรคต สิริพระชนมายุได้ 63 พรรษากับ 11 วัน ดำรงอยู่ในราชสมบัติ 25 ปี 7 เดือน 23 วัน พระมหาโตอายุได้ 64 ปี 42 พรรษา
พวกข้าราชการได้ทูลอัญเชิญเสด็จทูลกระหม่อมพระราชาคณะวัดบวรนิเวศวรวิหาร ให้เสด็จนิวัติออกเถลิงราชย์ พระมหาโตเลยธุดงค์หนีหายไปหลายเดือน
ครั้นทรงระลึกได้จึงรับสั่งให้หาตัวมหาโตก็ไม่พบ ก็ทรงกริ้วสังฆการี รับสั่งว่า
ท่านเหาะก็ไม่ได้ ดำดินก็ไม่ได้ แหกกำแพงจักรวาลหนีก็ยังไม่ได้ จึงรับสั่งให้พระญาณโพธิ์ออกติดตามก็ไม่พบ ก็รับสั่งว่า
ฉันจะตามเอง
ครั้นถึงเดือนเจ็ดปีนั้น มีกระแสรับสั่งถึงเจ้าเมืองฝ่ายใต้ ฝ่ายเหนือ ตะวันตก ตะวันออก ทั่วพระราชอาณาจักร จับพระมหาโต ส่งมายังเมืองหลวงให้ได้ ให้เจ้าคณะเหนือ กลาง ใต้ ตก ออก ออกค้นหามหาโต เลยสนุกกันใหญ่ ทั้งฝ่ายพุทธจักร อาณาจักรแม้จะมีท้องตราเร่งรัดอย่างไร ก็ยังเงียบอยู่ เจ้าเมืองเจ้าหมู่ฝ่ายพระร่วมใจกันจับพระอาคันตุกะทุกรูปส่งยังศาลากลาง
คราวนี้พระมหาโตลองวิชาเปลี่ยนหน้า ทำให้คนรู้จักกลับจำไม่ได้ เห็นเป็นพระรูปอื่น ปล่อยท่านไปก็มี (อาคมชนิดนี้พระอาจารย์เจ้าเรียกว่า นารายณ์แปลงรูป)
ต่อมาท่านพิจาณาเห็นว่านายด่านนายตำบล เจ้าเมือง กรมการ จับพระไปอดเช้าบ้าง เพลบ้าง ตากแดด ตากฝน ได้รับความลำบาก ทำทุกข์ทำยากแก่พระสงฆ์คงไม่ดีแน่ จึงแสดงตนให้กำนันบ้านไผ่รู้จัก จึงส่งตัวมายังศาลากลาง
เจ้าเมืองมีใบบอกมายังกระทรวงธรรมการ กระทรวงธรรมการบอกข่าวส่งไปยังวัดโพธิเชตุพนฯ พระญาณโพธิ์ ขึ้นไปดูตัวก็จำได้ แล้วคุมตัวลงมาเฝ้า......ฯลฯ
ถ้าจะพูดตามพระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว สมเด็จพระพุฒาจารย์โต หาได้ใช้อาคมนารายณ์แปลงรูปไม่ แต่ท่านได้ใช้อิทธิวิธีโดย วิกุพพนาฤทธิ์ กล่าวคือ ฤทธิ์ที่ต้องทำอย่างผาดแผลงนั่นเอง เช่นเดียวกัน อภิทู พระสาวกของพระสิขีพระพุทธเจ้า ที่ชอบแปลงกายเป็นรูปต่างๆ
ทั้งนี้แสดงว่าท่านปฏิบัติธรรมอย่างเอกอุ จนได้วิชชา 8 ประดับสติปัญญาแล้ว เพราะความดังกล่าวได้บอกไว้ว่า ก่อนที่สมเด็จพระนั่งเกล้าเสด็จสวรรคต สมเด็จหลวงพ่อโตเก็บตัวแต่ในกุฏิ สงบปากคอไม่ฟุ้งซ่าน ตั้งใจปฏิบัติจนมีจิตแน่วแน่ต่อญาณคติมีวิถีจิตแน่วไปในโลกุตรภูมิซึ่งหมายถึงได้ญาณสมบัติขั้นสูงสุดทีเดียว